จิตอาสาพัฒนาสังคม
ความหมายของ “จิตอาสาพัฒนาสังคม”
จิตอาสา หรือ จิตสาธารณะ (public consciousness หรือ Public mind) หมายถึง จิตสำนึกเพื่อส่วนรวม เพราะคำว่า “สาธารณะ” คือ สิ่งที่มิได้เป็นของผู้หนึ่งผู้ใด จิตสาธารณะจึงเป็นความรู้สึกถึงการเป็นเจ้าของในสิ่งที่เป็นสาธารณะ ในสิทธิและหน้าที่ที่จะดูแล และ บำรุงรักษาร่วมกัน
จิตอาสา หรือ มีจิตสาธารณะ ยังหมายรวมถึง จิตของคนที่รู้จักความเสียสละ ความร่วมมือ ร่วมใจ ในการทำประโยชน์เพื่อส่วนรวม จะช่วยลดปัญหาที่เกิดขึ้นในสังคม ช่วยกันพัฒนาคุณภาพชีวิต เพื่อเป็นหลักการในการดำเนินชีวิต ช่วยแก้ปัญหาและสร้างสรรค์ให้เกิดประโยชน์สุขแก่สังคม เช่น การช่วยกันดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม โดยการไม่ทิ้งขยะลงในแหล่งน้ำ การดูแลรักษาสาธารณสมบัติ เช่น โทรศัพท์สาธารณะ หลอดไฟฟ้าที่ให้ความสว่างตามถนนหนทาง แม้แต่การประหยัดน้ำ ประปา หรือไฟฟ้า ที่เป็นของส่วนรวม โดยใช้ให้เกิดประโยชน์อย่างคุ้มค่า ตลอดจนช่วยกันดูแลรักษา ให้ความช่วยเหลือผู้ตกทุกข์ได้ยาก หรือผู้ที่ร้องขอความช่วยเหลือเท่าที่จะทำได้ ตลอดจนร่วมมือกระทำเพื่อไม่ให้เกิดปัญหา หรือช่วยกันแก้ปัญหา แต่ต้องไม่ขัดต่อกฎหมาย เพื่อรักษาประโยชน์ส่วนรวม
จิตอาสาพัฒนาสังคม หมายถึง การพัฒนานักศึกษาให้เป็นผู้มีจิตใจที่เป็นผู้ให้ รู้จักการเสียสละ มีความเอื้ออาทร มีน้ำใจ พร้อมที่จะให้ความช่วยเหลือผู้อื่น ในลักษณะการทำงานเพื่อส่วนรวมด้วยความรู้ ความคิด ความสามารถ เพื่อให้บุคคลในชุมชน สังคมมีความเข้มแข็ง
ตัวอย่างกิจกรรม / โครงการจิตอาสา
จิตอาสาปลูกป่า อนุรักษ์นกยูงไทยในถิ่นกำเนิด อ. ลี้ จ. ลำพูน

กิจกรรมอนุรักษ์สัตว์ป่า อย่างเช่น นกยูงไทยซึ่งเป็นสัตว์สวยงามและหายาก ที่นับวันจะยิ่งลดจำนวนลง ส่วนหนึ่งเกิดจากปัญหาการบุกรุกพื้นที่ป่า และถูกล่าเพื่อนำมาเป็นอาหาร เมื่อปลายปี 2555 ได้มีการพบนกยูงไทยจำนวนมากลงมากินพืชผลการเกษตรของชาวบ้านในพื้นที่ป่าอนุรักษ์บ้านแม่ป้อก ตำบลศรีวิชัย อำเภอลี้ จังหวัดลำพูน
ทั้งนี้มูลนิธิคุ้มครองสัตว์ป่าและพรรณพืชแห่งประเทศไทยในพระบรมราชินูปถัมภ์ร่วมกับจังหวัดลำพูน และมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ได้จัดตั้งศูนย์ศึกษาและอนุรักษ์นกยูงไทยในถิ่นกำเนิด ณ บ้านแม่ป้อก ตำบลศรีวิชัย อำเภอลี้ จังหวัดลำพูน เมื่อวันที่ 17 ธันวาคม 2557 เพื่อเป็นแหล่งศึกษาอนุรักษ์นกยูงไทยและสัตว์ป่าอื่นๆ ในท้องถิ่น รวมถึงการฟื้นฟูสภาพป่าให้ระบบนิเวศคืนความสมบูรณ์
กิจกรรมคือ การจัดสร้างพื้นที่ และขยายพื้นที่ธรรมชาติให้นกยูงได้อยู่อาศัยอย่างปลอดภัย พาเพื่อนๆ ไปปลูกป่า สร้างแหล่งอาหารให้นกยูง และได้ความรู้เกี่ยวกับพฤติกรรม ส่องสำรวจนกยูงหางสวยเหล่านี้ด้วย
นโยบายสังคม
การเสริมสร้างความเข้มแข็งให้แก่นโยบายสังคมและการคุ้มครองทางสังคมเป็นสิ่งจำเป็นในการหยุดวงจรความยากจนและลดความเหลื่อมล้ำ

ปัญหาและความท้าทาย
ความเหลื่อมล้ำ
แม้การพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศไทยจะก้าวหน้าอย่างมากในช่วงหลายสิบปีที่ผ่านมา แต่น่าเสียดายที่การเติบโตทางเศรษฐกิจยังเข้าไม่ถึงประชากรทั้งหมดได้อย่างเท่าเทียมกัน โดยยังมีบางภูมิภาคและประชากรบางกลุ่มถูกทิ้งไว้ข้างหลัง การสำรวจสถานการณ์เด็กและสตรีในประเทศไทย พ.ศ. 2558-2559 พบว่าเด็กและเยาวชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ห่างไกล เด็กที่หัวหน้าครอบครัวไม่พูดภาษาไทย เด็กในครอบครัวยากจน และเด็กที่พ่อแม่มีการศึกษาน้อย มักจะมีความล้าหลังกว่าเด็กรุ่นราวคราวเดียวกันทั้งทางด้านสุขภาพ การศึกษา และการพัฒนาโดยรวม
ไม่ควรมีเด็กคนใดใช้ชีวิตอยู่กับความยากจน
ความยากจน
ความยากจนส่งผลกระทบต่อเด็กยิ่งกว่าประชากรยากจนกลุ่มอื่น กล่าวคือ ในขณะที่อัตราความยากจนโดยรวมใน พ.ศ. 2557 อยู่ที่ร้อยละ 10.5 อัตราความยากจนสำหรับเด็กอายุระหว่าง 0-17 ปีกลับอยู่ที่ร้อยละ 13.8 โดยภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคใต้มีอัตราความยากจนของเด็กสูงที่สุดในประเทศไทย ใน พ.ศ. 2557 มีเด็กประมาณสองล้านคนในประเทศไทยอาศัยอยู่กับครัวเรือนที่มีรายได้ต่ำกว่าเส้นแบ่งความยากจน
ความยากจนพรากสิทธิขั้นพื้นฐานไปจากเด็ก ทำให้พวกเขามีความเสี่ยงที่จะถูกทำร้าย และถูกแสวงประโยชน์ ทั้งยังพรากโอกาสของเด็กในการได้รับโภชนาการที่เหมาะสม การมีสุขภาพที่ดีและการศึกษาที่มีคุณภาพ ซึ่งเป็นสถานการณ์ที่จะถูกส่งต่อไปยังรุ่นถัดไป
แนวทางการแก้ปัญหา

งานด้านนโยบายสังคมของ ยูนิเซฟ ประเทศไทย มุ่งเน้นไปที่การแก้ปัญหาคอขวดในการสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อพวกเด็กๆ และในด้านคุณภาพและการให้บริการต่างๆ แก่พวกเด็กๆ ซึ่งรวมถึงการพัฒนาทักษะให้กับหน่วยงานภาครัฐในการใช้หลักฐานข้อมูลในการวางแผน จัดสรรงบประมาณ ดำเนินโครงการ และประเมินนโยบายด้านเด็กของประเทศในมุมมองด้านความเหลื่อมล้ำและผลลัพธ์ ศักยภาพของภาครัฐจะได้รับการเสริมสร้างให้เข้มแข็งเพื่อนำเอาเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนเข้ามาบูรณาการในนโยบายและแผนของประเทศ
จุดมุ่งหมายจะอยู่ที่การเก็บรวบรวมข้อมูลเพื่อเพิ่มความโปร่งใส ความรับผิดชอบ และการบริหารจัดการทางการเงิน ที่จะช่วยเสริมสร้างการตระหนักรู้สาธารณะถึงช่องว่างในการปกป้องสิทธิเด็กและกระตุ้นให้ภาครัฐลงมือปฏิบัติ
ในประเด็นด้านการคุ้มครองทางสังคมที่เกี่ยวข้องกับพวกเด็กๆ ยูนิเซฟ ประเทศไทย มุ่งหวังที่จะสร้างความเข้มแข็งให้กับระบบการคุ้มครองทางสังคม เพื่อลดช่องว่างของความยากจน และแก้ปัญหาประเด็นต่างๆ เกี่ยวกับชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีของพวกเด็กเล็ก โครงการจะเข้ามาสนับสนุนโมเดลของการคุ้มครองทางสังคม การระบุแหล่งที่มาของงบประมาณ และการจัดทำนโยบายการคุ้มครองทางสังคมเพื่อเด็กแบบถ้วนหน้า โดยพันธมิตรด้านยุทธศาสตร์ได้แก่ภาคประชาสังคม เช่น สถาบันการศึกษา ที่จะเข้ามาช่วยในด้านการเก็บข้อมูล และให้คำแนะนำด้านนโยบาย
ยูนิเซฟจะช่วยสร้างเสริมศักยภาพให้กับกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และกระทรวงอื่นๆ เพื่อให้มีความสามารถในการออกแบบ ดำเนินการ และเฝ้าติดตามโครงการเงินอุดหนุนที่มีอยู่ให้ครอบคลุมเด็กทุกคนได้อย่างมีประสิทธิภาพ องค์ประกอบอื่นๆ ของโครงการ จะได้ประโยชน์จากการบูรณาการร่วมกับนโยบายสังคม ผ่านการวิเคราะห์ข้อมูลและงบประมาณสำหรับแผนและนโยบายเพื่อเด็กในประเทศไทย
